27/2/56

ปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ




 แนวทางในการป้องกันปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสำหรับการป้องกันปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศนั้น มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานได้เข้ามารับผิดชอบในเรื่องนี้มากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินงานดังกล่าวยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า การปฏิบัติจริงขึ้นอยู่กับตัววัยรุ่นเอง ซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคล ปราศจากการบังคับทางกฎหมาย แต่ความเหมาะสมถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับความสอดคล้องกับสภาพของวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคมไทยที่สั่งสมมายาวนาน
แนวทางการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของวัยรุ่น โดยหวังผลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1.ผู้ใหญ่ ได้แก่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ต้องให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างตรงไปตรงมา และถูกต้องเหมาะสมกับวัยรุ่น 
2.ตัววัยรุ่นเองควรปฏิบัติตนตามขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่ดีงามโดยเฉพาะการสงวนท่าที่รักนวลสงวนตัว มีความรับผิดชอบที่จะไม่ทำให้ตนเองต้องเสียอนาคต 
3.ที่อยู่อาศัยควรจัดระเบียบการเข้าพักอาศัยให้เอื้อต่อความปลอดภัยทางเพศ เช่น กวดขันหรือแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าพบว่ามีการรวมตัวกันในห้องพักของนักเรียน นักศึกษา เพื่อกระทำในสิ่งที่เห็นว่าไม่สมควร เช่น การเสพสารเสพติด
4.ผู้ใหญ่จะต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องเพศ 
5.การจัดงานพบปะสังสรรค์เฉพาะกลุ่มสามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ควรประพฤติตนให้เหมาะสมกับวัย ไม่ดื่มของมึนเมา หรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร 
6.การนัดเที่ยวต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนต้องบอกให้พ่อแม่ ผู้ปกครองทราบก่อน เพื่อที่ผู้ใหญ่จะได้จัดหาวิธีการดูแลบุตรหลานให้ปลอดภัย 
7.วัยรุ่นต้องศึกษาและเรียนรู้วิธีการป้องกันตนเองให้พ้นจากภัยทางเพศ ต้องใช้สติปัญญาของตนพิจารณาไตร่ตรอง มีวิจารณญาณ ยับยั้งชั่งใจไม่ปล่อยตัวไปตามแรงขับทางเพศตามธรรมชาติซึ่งจะก่อให้เกิด ปัญหาชีวิตตามมาในอนาคต 
8.สังคมต้องจัดสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับวัยรุ่นให้เหมาะสม เช่น จัดให้มีสถานที่ออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาเพื่อที่วัยรุ่นจะได้ระบายอารมณ์ ความรู้สึกและแรงขับทางเพศให้เหมาะสม

ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต   
ค่านิยมของวัยรุ่นหลายประการสามารถ ชักนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ เช่น พฤติกรรมนิยมมีแฟนในวัยเรียน พฤติกรรมที่วัยรุ่นเรียกว่า กิ๊กซึ่งวัยรุ่นยังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับค่านิยมเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะมองดูทันสมัย แต่ถ้านำมาปฏิบัติจะนำพาชีวิตไปสู่ทางเสื่อมได้ง่าย ถ้าไม่รู้จักการปฏิบัติและวางตัวให้เหมาะสมกับวัย ซึ่งวัยรุ่นยังขาดประสบการณ์ที่เพียงพอในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพศที่ ต้องเรียนรู้อีกมาก
ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตมีคุณค่า ในที่นี้จะนำเสนอค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต เพื่อที่จะได้พิจารณานำไปปฏิบัติ ดังนี้
1. ค่านิยมรักนวลสงวนตัว เรื่องการปฏิบัติตนของเพศหญิงที่เรียกว่า การรักนวลสงวนตัว เป็นสิ่งที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล ซึ่งในปัจจุบันค่านิยมนี้ยังใช้ได้ดีอยู่ เพราะช่วยป้องกันภัยทางเพศได้ สังคมไทยยังถือเรื่องความบริสุทธิ์ของผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่า การปฏิบัติตนเพื่อรักนวลสงวนตัวนั้น ไม่ใช่ว่าตัดความสัมพันธ์ในการคบหาสมาคมกับเพื่อนชายโดยสิ้นเชิง แต่จะเน้นการสร้างสัมพันธภาพที่เหมาะสมต่อกัน เช่น วัยรุ่นหญิงไม่ควรเปิดโอกาสให้เพื่อนชายได้ใกล้ชิดมากจนเกินขอบเขต โดยปล่อยให้จับมือถือแขนโอบกอด ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้สังคมจะมองคุณค่าในตัวของเพศหญิงลดลง ดังนั้นผู้หญิงทุกคนควรไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะการวางตัวให้เหมาะสมกับวัยจะเป็นที่ชื่นชมของสังคมมากกว่า
2. ค่านิยมการให้เกียรติและการวางตัว การให้เกียรติซึ่งกันและกันและการวางตัวที่เหมาะสมทางเพศ เป็นเรื่องที่วัยรุ่นควรศึกษาเรียนรู้ และนำมาปฏิบัติทั้งต่อเพื่อนเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามเพราะเป็นสิ่งที่ สามารถยึดเหนี่ยวน้ำใจระหว่างเพื่อนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การให้เกียรติและการวางตัวที่ดีทางเพศนั้น ทั้งวัยรุ่นชายหญิงจะต้องแสดงออกต่อกันด้วยความจริงใจ เช่น วัยรุ่นชายควรใช้คำพูดที่สุภาพ ไม่พูดก้าวร้าว ดูหมิ่นศักดิ์ศรีเพื่อนหญิง ควรแสดงความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเพื่อนหญิง ไม่ฉวยโอกาสใกล้ชิดเพื่อนหญิงเพื่อจับมือถือแขน หรือลวนลามให้ได้รับความเสียหาย ต้องวางตัวในฐานะเพื่อนให้เพื่อนหญิงไว้ใจ อุ่นใจ ส่วนวัยรุ่นหญิงควรให้เกียรติเพื่อนชายเช่นกัน เช่น ใช้คำพูดที่สุภาพเรียบร้อย แสดงความมีน้ำใจ ไม่แต่งกายล่อแหลมเพื่อยั่วยวนเพื่อนชายด้วยการนุ่งน้อยห่มน้อยชิ้น ปฏิเสธการไปไหนด้วยกันสองต่อสองกับเพื่อนชาย ที่จะเป็นเหตุให้ตนเองไม่ปลอดภัยและสังคมมองไม่ดีได้ เป็นต้น
 3. ค่านิยมสร้างคุณค่าความดีงามในจิตใจ ความดีงามในจิตใจเป็นสิ่งมีคุณค่าเพราะเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปในสังคมยอมรับ วัยรุ่นในฐานะที่กำลังเป็นวัยเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพในอนาคต จึงควรสร้างโอกาสอันดีในการเรียนรู้ฝึกฝนอบรมตัวเองทางด้านจิตใจ ให้เจริญพัฒนาอย่างมีคุณค่าจนเป็นที่ยอมรับของสังคม
     การสร้างคุณค่าในตัวเองทางจิตใจนั้น สามารถปฏิบัติได้หลายวิธี เช่น การยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยหลักทางศาสนาที่ตนนับถือ ซึ่งทุกศาสนาล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี วัยรุ่นจึงควรศึกษาทำความเข้าใจในศาสนาของตนเองว่า การปฏิบัติในเรื่องใดสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสภาพชีวิตของตนเองได้ก็ให้ นำมาปฏิบัติ ในเรื่องเพศก็เช่นกันเดียวกัน ศาสนาไม่มีข้อห้ามแต่ต้องปฏิบัติให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เพศ และวัยของตนเองไม่หมกมุ่นฟุ้งซ่านจนเกินขอบเขตก็จะช่วยสร้างชีวิตที่ดีใน อนาคตได้


ที่มา www.vimanloy.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น